ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งเมื่อคุณจ่ายค่าเช่าไม่ตรงเวลาที่ญี่ปุ่น ปกติผมเป็นคนค่อนข้างจะเมคชัวร์เกี่ยวกับเรื่องการจ่ายบิลนู่นนี่ให้ตรงเวลานะ ถึงแม้หลังจากนั้นผมจะแทบไม่เหลือเงินก็เถอะ ผมไม่ชอบที่ต้องมีภาระหนี้สินแบกไว้บนบ่า (ทุนการศึกษานี่ตัวดีเลย !). ตัวอย่างมีครั้งนึงในความทรงจำเมื่อไม่นานมานี้ ความผิดพลาดอันเกิดจากความงี่เง่าและไม่ได้ตั้งใจ ที่ทำให้ผมไม่ได้จ่ายค่าเช่าในครั้งนั้น เวลาผมได้เงินมา สิ่งแรกๆที่ต้องทำก็คือกั๊กเงินบางส่วนไว้สำหรับจ่ายทุนการศึกษาและจ่ายค่าเช่าอาพาร์ทเม้นต์ ก็ประมาณ 55,000 เยน จริงๆผมเก็บเงินส่วนนี้แยกไว้อีกบัญชีหนึ่งเพื่อป้องกันการหน้ามืดตามัวถอนออกมาใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มีวันหนึ่งกิเลสดันเข้าครอบงำผม แถมบัญชีที่ใช้ประจำวันก็แทบเกลี้ยง เลยถอนออกมา 1,000 เยน จากบัญชีที่เอาไว้จ่ายเฉพาะค่าเช่า ไม่เห็นเป็นไรนี่ใช่ปะ? … ผิดมหันต์ !! ผมคิดว่าผมฝากเงินไว้มากเกินพอเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น. ยังไงก็ตาม มีบิลอยู่ใบหนึ่งที่เราลืมไปเสียสนิท, บิลแบบหักบัญชีอัตโนมัติของ Softbank (สำหรับคนที่ไม่คุ้น Softbank คือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่นี่ในญี่ปุ่น) เพราะปกติ Softbank จะหักเงินผ่านบัญชีแบบอัตโนมัติภายในไม่กี่วัน แต่ก่อนหน้านั้นผมถอนมาหน่อยนึง สุดท้ายกลายเป็นว่า บัญชีผมมีเงินคงเหลืออยู่ 53,000 เยน … ขาดแค่ 2,000 เยนเอง เฮ้ออ ผมเพิ่งรู้ตัวหลังจากผ่านวันครบกำหนดไปแล้ว ก็มานั่งคิดทีหลังว่า “ให้ตายเถอะ รู้งี้ฝากเงินคืนไปดีกว่า” จริงๆนะ ผมคาดหวังว่าทาง Kazuya (บริษัทของอพาร์ทเม้นต์) จะเรียกเก็บค่าเช่าอีกครั้ง แต่มันไม่เกิดขึ้นเลย ผมเริ่มกังวลมากขึ้นว่าจะโดนเก็บค่าธรรมเนียมล่าช้าอะไรรึเปล่า หรือต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้จ่ายมันไป ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลยเริ่มรู้สึกกังวลนิดๆ เข้าเรื่องได้แล้วดอนนี่! อะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากนายลืมจ่ายค่าเช่าที่ญี่ปุ่น? โอเคๆ อยากฟังกันจริงๆใช่มั้ย? คืองี้ เวลาคุณลืมจ่ายค่าเช่าที่ญี่ปุ่น พวกเขาจะจ้างกลุ่มนินจามาตามหาคุณ. สำหรับการเตือนครั้งแรก พวกนินจาดูเป็นมิตรและปกติดี พวกเขาแค่เข้ามาทักทายยิ้มๆแล้วกล่าวว่า “อย่าลืมจ่ายค่าเช่าด้วยนะเพื่อน” พอเวลาผ่านไป มาครั้งที่สอง ส่วนมากก็เป็นแก้งค์เดิมนั่นแหละ แต่คราวนี้เริ่มถึงเนื้อถึงตัวแบบมือเปล่าด้วยทักษะวิชานินจิตสึของพวกเขา พอครั้งที่สาม พวกนินจาจะพกอาวุธเบาๆอย่างเช่น สนับมือ กระบองสองท่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีไว้เพื่อทำร้ายร่างกาย จำไว้ว่า เป้าหมายของการเตือนครั้งที่สามนี้ไม่ได้ถึงขั้นจะฆ่าแกงกันซะทีเดียว เขาเรียกว่าการเตือนแบบนุ่มนวล แล้วก็มาถึงครั้งที่สี่ คุณคงไม่อยากให้มันเลยเถิดไปถึงจุดนั้นหรอก คุณไม่มีทางเดาผลลัพธ์ได้เลย ผมกำลังพูดถึงอาวุธเช่นพวก ดาวกระจาย ดาบซามูไร กรงเล็บติดมือ ระเบิดควัน นินจากับวิชาเวทมนตร์ของเขา ด้วยความตั้งใจจะทำให้เราพิการไม่ก็ตายไปเลย การเตือนครั้งที่สี่ถูกมองว่าเป็นการดูถูกองค์กรที่คุณกำลังเช่าอยู่ และทางเดียวที่พวกเขาจะกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาก็คือการปลิดชีพคุณนั่นแหละ บัดซบจริงๆ เอิ่ม ขอโทษที… ในความเป็นจริงแล้ว ผมแค่ได้รับสายโทรศัพท์จากฝ่ายบัญชีของบริษัทอพาร์ทเม้นต์ […]
สำหรับผู้ที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นจะมีอยู่ 3 ประเภทคือ 1.เด็กหนุ่มสาววัยละอ่อน ที่เดินทางมายังประเทศกับเงินของพ่อแม่เพื่อการศึกษาโดยเฉพาะอย่างเต็มเวลา โดยวีซ่านักเรียน ระยะเวลา 6 เดือนถึง 24 เดือน 2.นักเดินทางท่องเที่ยวที่มีความสนุกสนานและมีเงินเพียงพอที่จะใช้ ก:ใช้เวลาสักเดือนเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นและ ข: เรียนภาษาญี่ปุ่นไปด้วยบางสัปดาห์ระหว่างเที่ยว ภายใต้ข้ออ้างว่าพวกเขาต้องการที่จะกลับมาที่ประเทศนี้ในอนาคตเพื่อทำงาน 3. คนที่อยู่อาศัยแบบตั้งใจเรียนและทำงานในญี่ปุ่น ก็นะ … เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ถึงกระนั้นก็อาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แรงจูงใจก็มีแตกต่างกันไป เช่น จำเป็นต้องใช้ภาษาสำหรับการทำงาน,หรือหวังจะได้มีเวลาส่วนตัวกับครูสาวๆ … มันมีหนทางอยู่มากมาย บทเรียนก็จะถูกสอนในการทำงาน คำเตือน; ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองด้วย, การเลือกโรงเรียนภาษาญี่ปุ่นในญี่ปุ่น (ในระดับใดก็ได้) อาจเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายโดยมีหลักสูตรมากมายให้เลือกและค่าธรรมเนียมที่สูงลิบลิ่วจนถึงจุดที่คุณต้องการกรีดร้องว่า “บอกตูมาเลยว่ามันเท่าไหร่กันแน่ ! ‘ ดังนั้น เราจึงได้ทำการค้นคว้าผ่านอินเทอร์เน็ตและเที่ยวเดินตามถนนข้างนอกเพื่อพยายามหาค่าเฉลี่ยคร่าวๆของวงเงินที่คุณต้องการสำหรับชั้นเรียนในญี่ปุ่น ข้อกำหนดที่ควรระวัง -ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน -ค่าธรรมเนียมหลักสูตร –ค่าเล่าเรียน -ค่าวัสดุอุปกรณ์ -ค่าหนังสือ -ค่าธรรมเนียมสถานที่ -ค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่า คอร์สเรียนแบบเต็มเวลา โดยปกติเป็นวันจันทร์ – ศุกร์ ตารางเรียน 20 บทเรียน / ชั่วโมง + 1 สัปดาห์ในการทำกิจกรรมหลักสูตรพิเศษ โรงเรียนส่วนใหญ่จัดระเบียบวีซ่านักเรียนรวมไปถึงประกันสุขภาพ (คิดค่าบริการด้วย) ที่พักส่วนใหญ่จะเป็นความรับผิดชอบของนักเรียน แต่ทางโรงเรียนสามารถให้คำแนะนำได้ อัตราค่าเล่าเรียน 3 เดือน – 170,000 เยน 6 เดือน – 400,000 เยน 9 เดือน – 600,000 เยน 12 เดือน – 700,000 เยน 15 เดือน – 850,000 เยน 18 เดือน – 1,000,000 เยน + 21 เดือน – 1,160,000 เยน 24 […]
ค่าเงินญี่ปุ่นคือเงินเยน (円, en). 1 เยนมีค่าเท่ากับ 100 เซ็น. อย่างไรก็ตาม, เงินเซ็นไม่ค่อยได้ใช้กันในชีวิตประจำวันแล้ว ยกเว้นในราคาตลาด ตั๋วเงินมีมูลค่า 1,000 เยน 2,000 เยน (หายากมาก) 5,000 เยนและ 10,000 เยน เหรียญมีจำนวน 1 เยน 5 เยน 10 เยน 50 เยนเยน 100 เยนและ 500 เยน เงินปลอมไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เท่าไรในญี่ปุ่น สกุลเงินต่างประเทศโดยทั่วไปจะไม่ได้รับอนุมัติตั้งแต่ภายนอกสนามบินใหญ่ๆ วิธีการชำระเงินในญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นสังคมที่ใช้เงินสด แต่แนวโน้มมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ และมีการยอมรับวิธีการชำระเงินอื่น ๆ ตามด้านล่างนี้เป็นรูปแบบการชำระเงินที่คุณอาจได้ใช้เมื่อไปประเทศญี่ปุ่น เงินสด เงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่นิยมใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้จ่ายจำนวนน้อยๆ พันธบัตรมูลค่าสูงๆได้ถูกนำมาใช้และยอมรับในญี่ปุ่น คุณจะไม่ถูกต่อว่าถ้าใช้แบงค์ 10,000 เยนเพื่อจ่ายเงินแม้แต่สินค้าที่มีราคาต่ำ แต่ถึงอย่างไรแบงค์ย่อยก็จะดูเหมาะสมกว่าสำหรับจ่ายค่าแทกซี่, ร้านค้าเล็กๆ, หรือการบริจาควัดและศาลเจ้า โอกาสที่บัตรเครดิตจะได้รับการยอมรับจะลดต่ำลงในเมืองเล็ก ๆ หรือชุมชน ดังนั้นจึงควรเก็บเงินสดไว้ในมือเมื่อไปเที่ยวชนบท เงินสดมักจะเป็นวิธีเดียวที่จะจ่ายค่าเข้าชมเล็ก ๆ ที่สถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหารและร้านค้าขนาดเล็ก ตู้เก็บของส่วนใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้เหรียญ การเตรียมเหรียญล่วงหน้าเมื่อใช้รถประจำทางและรถรางคือความคิดที่ดี รถโดยสารประจำทางโดยทั่วไปไม่ยอมรับแบงค์เงินที่มากกว่า 1,000 เยนและคนขับรถบัสอาจไม่มีแบงค์ใหญ่กว่านั้น เครื่องหยอดเหรียญมักรับเหรียญ 10, 50, 100 และ 500 เยนและแบงค์เงิน 1,000 เยน เครื่องใหม่มักรับเงิน 5,000 และ 10,000 เยน บัตรเครดิต / เดบิต มีการยอมรับใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ๆ โรงแรมส่วนมากยอมรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตแล้วในปัจจุบัน เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่, ร้านอาหารระดับกลางถึงระดับสูง, ศูนย์การค้าและร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟหลายแห่ง, ร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหารสาขาและร้านบูติกต่างๆก็สามารถจ่ายผ่านบัตรได้ บัตร IC IC card เช่น Suica และ Icoca เป็นบัตรสะสมมูลค่าซึ่งสามารถเติมเงินได้ […]
ดัมดี้ดัมๆๆ โดนัลด์กลับถึงบ้านหลังจากทำงาน ทุกอย่างปกติดี ไม่มีอะไรน่ากังวล ไม่มีปัญหาเรื่องไหนในโรงเรียนที่เขารับมือไม่ไหว เขาเปิดกล่องจดหมายเพื่อหาบิลข้างใน ”ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ก็แค่หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดการ คิดว่านะ”. โดนัลด์เปิดซองจดหมายที่ได้รับจาก TEPCO. สายตาของเขาสแกนไปทางขวาเพื่อดูยอดเงินอย่างว่องไว แล้วเขาก็หยุดนิ่ง ดวงตาเปิดกว้าง คิ้วขมวดย่น และเริ่มมีเหงื่อผุดตามใบหน้า. จากสภาพอากาศของฤดูหนาว, ไม่น่าจะมีแหล่งความร้อนใดทำให้เหงื่อออกได้ยกเว้นรังสีแกมม่า. แล้วมันก็เพิ่มขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนจนเดือดปุดๆในกระแสเลือดที่วิ่งไปทั่วร่าง เขาควบคุมมันไม่ได้. มีเสียงแตกร้าวดังก้องในหัวและอกของเขา กะโหลกเหมือนจะขยายออก ซี่โครงเริ่มดันออกด้านข้าง นิ้วโป้งที่แตะอยู่ใต้ตัวเลขยอดเงินเริ่มแตกและผิวหนังของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว. โอ้ว อ้าว มันคือบัลค์มหาประลัย ! ในเสี้ยววินาที, ทั้งอพาร์ทเมนต์ถูกทำลายย่อยยับขณะที่มีเสียงตะโกนกึกก้องกลางดึก “บัลค์เกลียดบิลค่าไฟ !!” (คนดำ (black man) + เดอะฮัลค์ = เดอะบัลค์) ผมเดาว่าถ้ากลายเป็นเดอะบัลค์ ทำลายสิ่งของนู่นนี่ น่าจะทำให้ผมต้องเสียเงินเพิ่มมากกว่าเดิมแน่ๆ ดังนั้นถ้าคุณมีพลังงานแกมม่าในกระแสเลือด โปรดอย่าทำอย่างนั้น จริงจังเลยนะ ตอนนั้นผมลงไปกองกับพื้นเมื่อได้เห็นบิลค่าไฟเดือนล่าสุด(ค่าไฟและแก๊สจะรวมอยู่ในยอดเดียวกัน) บิลค่าไฟของผมเดือนนั้นโผล่มา 14,789 เยน. สำหรับพวกคุณบางคนที่ไม่ได้อยู่ญี่ปุ่น, ก็อาจจะคำนวณยากอยู่สักหน่อย. ผมเลยคิดว่าผมควรโชว์บิลเดือนที่แล้วเพื่อเอามาเปรียบเทียบให้ดูกันจะๆ ถ้าดูในรูป ยอดเงินจะเป็นแค่ 6,091 เยน. (ค่อนข้างแพงกว่าปกตินะ) นั่นหมายความว่าเดือนนี้แพงกว่าแทบจะเป็นสองเท่าของเดือนที่แล้ว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมค่าไฟแพงจัง? บิลค่ามันไม่ขึ้นแบบไร้เหตุผลยังงี้หรอก ใช่มะ? ใช่ คุณถูกแล้ว. จะบอกความจริงให้ ผมใช้ฮีทเตอร์แบบฟุ่มเฟือยมาก อพาร์ทเมนต์ตึกนี้หนาวโคตรๆ หนาวกว่าที่อพาร์ทเมนต์เก่าผมเยอะเลย ที่นี่ผมมีเครื่องทำความร้อนในห้องนอนกับอีกเครื่องในห้องน้ำ ผมไม่ได้เปิดใช้ตลอดทั้งคืน หรือตอนผมอยู่ข้างนอก แต่ตอนผมอยู่บ้านก็จะใช้ตลอด ผมใช้ไฟเกินพิกัดกระแสอยู่บ่อยๆ (เปิดฮีทเตอร์ทุกตัวบวกกับเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมกัน) มันแก้ได้ไม่ยาก แต่เซ็งมากที่รู้ว่าคุณต้องเสียเงินมากกว่าเดิมในระหว่างเดือนตอนที่ค่าใช้จ่ายลดลงมาได้หน่อยนึง (ช่วงพักหนาว) นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงดีใจที่ได้งานในช่วงสิ้นปี เพราะมันช่วยผมออกจากทางตันจริงๆ ผมว่าหน้าหนาวปีนี้ผมคงไม่ใช้ฮีทเตอร์หนักขนาดนั้นแล้วล่ะ เพราะงั้นถ้าวันไหนคุณเห็นผมโพสคลิปวิดิโอในชุดกันหนาวเต็มรูปแบบล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลย โปรดระวัง เพื่อนรักของผม นายเจฟ ด้วยล่ะทุกคน, มิฉะนั้นเขาอาจจะคืบคลานเข้าหาคุณเหมือนกับตำรวจรัฐบนทางด่วนเซาท์จอร์เจีย. เจอกันครั้งหน้า
บัญชีธนาคารของคุณเปรียบเสมือนจุดที่สร้างความยุ่งยากในการเดินเรื่องธุรกรรมในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม ญี่ปุ่นก็ไม่แตกต่างกัน จำเป็นมากที่ต้องมีบัญชีธนาคารเปิดไว้หากคุณทำงานและใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ส่วนมากการจ่ายค่าแรงจะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชี บางครั้งค่าเช่าบ้านก็อาจจะถูกหักจ่ายจากบัญชีอัตโนมัติ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลง่ายๆเพื่อแสดงว่าทำไมบัญชีธนาคารถึงมีความสำคัญ วันนี้เราจะมาดูเรื่องวิธีการเปิดบัญชีธนาคารญี่ปุ่นที่ไปรษณีย์ มาดูกันที่สามส่วนหลักๆในการเปิดบัญชี 1.สถานที่ที่ต้องไป 2.สิ่งที่ต้องนำไป และ 3.เอกสาร 1.ต้องไปที่ไหน? ในการเปิดบัญชีที่ไปรษณีย์ คุณสามารถไปที่ JP Bank ที่ใกล้ที่สุด ผมรู้ว่าไปรษณีย์หลายๆที่จะมีส่วนที่ให้บริการไปรษณีย์ แล้วก็มีส่วนที่เป็นพื้นที่ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางธนาคารด้วย แต่อาจจะไม่ได้มีทุกที่นะ ถ้าคุณอยากรู้ว่าที่ไหนมีบริการทั้งสองอย่าง แค่มองหาโลโก้แบบนี้ … รูป … แล้วคุณจะรู้เลยว่ามาถูกที่แล้ว 2.ต้องเอาอะไรไปบ้าง ไม่ว่าคุณจะเลือก JP Bank, Joyo Bank, UFG, Mizuho หรือธนาคารอื่นๆ ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องนำไปส่วนใหญ่จะคล้ายๆกัน โปรดนำ: -เอกสารระบุตัวตนสองอย่างระหว่าง บัตรลงทะเบียนคนต่างด้าว, พาสปอร์ต, และ/หรือ บัตรประกันสุขภาพ (ผมทำประกันเอกชนไว้เมื่อตอนสมัครกับ JP Bank ผมก็เลยใช้แค่บัตร AR กับพาสปอร์ต ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาเรียบร้อย) -เงินที่คุณต้องการฝาก -ที่อยู่และหมาเลขโทรศัพท์ -ฮานโกะของคุณหรือตราประทับชื่อส่วนตัว (เป็นทางเลือก) เอกสารของ Japan Post หน้าแบบฟอร์มที่คุณจะต้องกรอกข้อมูลจะมีหน้าตาประมาณนี้. (รูปแบบฟอร์มหลักในการกรอกข้อมูลเพื่อเปิดบัญชีกับ Japan Post. มีแค่หน้าเดียว) มาดูกันใกล้ๆว่าคุณจะต้องกรอกอะไรบ้าง นี่คือส่วนที่ยากที่สุด แต่จะไม่ยากอีกต่อไปหากคุณรู้ความหมายของแต่ละช่องว่าต้องกรอกข้อมูลอะไรลงไป ผมทำกรอบแยกสีแต่ละช่องเพื่อให้ดูง่ายขึ้น ผมไม่ได้กรอกข้อมูลลงไปครบทุกช่อง จะมี 14 ช่องตามภาพที่คุณจำเป็นต้องใส่เพื่อเปิดบัญชี, รับบัตรเครดิตและบุคแบงค์ 種類 (しゅるい หรือ Shurui) ประเภทบัญชี ช่องนี้มีทางเลือก 2 ทาง ให้คุณเลือกเลข 1 通常 (つうじょう หรือ Tsujo) บัญชีทั่วไป หรือเลือก 2 貯蓄 (Chochiku หรือちょちく) บัญชีออมทรัพย์. สำหรับประเภทแรกคุณสามารถฝากถอนได้ตามต้องการ แต่จำให้ขึ้นใจว่าบัญชีประเภทที่สอง อัตราแลกเปลี่ยนดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับเงินในบัญชี และไม่สามารถรับโอน(เงินเดือน) หรือการจ่ายเงินอัตโนมัติผ่านบัญชีได้ 送金機能 (そうきんきのう […]